• 99/88 หมู่ 1 ซ.ม่วงสกุล 2
    ถนนเลียบคลองสี่วาพาสวัสดิ์

  • ตำบลนาดี อำเภอเมือง สมุทรสาคร 74000

Aug 20, 2025

มาทำความรู้จัก Carbon Footprint & Carbon Credit กันเถอะ

นยุคที่โลกให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น คำว่า Carbon Footprint และ Carbon Credit กลายเป็นคำที่เรามักได้ยินกันบ่อยในแวดวงอุตสาหกรรม โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการผลิต เช่น โรงงานผลิตขวดพลาสติก ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต

บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจว่า Carbon Footprint และ Carbon Credit คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร และมีผลอย่างไรกับการดำเนินธุรกิจของผู้ผลิตพลาสติก


Carbon Footprint คืออะไร?

Carbon Footprint หรือ "รอยเท้าคาร์บอน" คือ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดที่ถูกปล่อยออกมาโดยกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์หรือองค์กร โดยคำนวณเป็นหน่วย ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e)
ในโรงงานผลิตขวดพลาสติก รอยเท้าคาร์บอนอาจเกิดจากหลายขั้นตอน เช่น:
  • การใช้พลังงานไฟฟ้าในกระบวนการผลิต
  • การขนส่งวัตถุดิบหรือสินค้าสำเร็จรูป
  • การใช้เชื้อเพลิงในเครื่องจักร
  • การจัดการของเสียหรือขยะจากการผลิต
การลด Carbon Footprint จึงหมายถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อให้ธุรกิจมีความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

Carbon Credit คืออะไร?
Carbon Credit หรือ "เครดิตคาร์บอน" คือ สิทธิในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณที่กำหนด โดยทั่วไป 1 Carbon Credit = 1 ตันของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
องค์กรหรือโรงงานที่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ต่ำกว่ามาตรฐาน จะได้รับ Carbon Credit เพื่อนำไป:
  • ขายให้กับองค์กรอื่น ที่ปล่อยคาร์บอนเกินกำหนด
  • ใช้ชดเชย (Offset) ปริมาณคาร์บอนของตนเอง
Carbon Credit จึงเปรียบเสมือน เครื่องมือทางการเงิน ที่ช่วยจูงใจให้องค์กรต่าง ๆ หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

สรุปความแตกต่างระหว่าง Carbon Footprint กับ Carbon Credit
หัวข้อ Carbon Footprint Carbon Credit
ความหมาย ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด สิทธิในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามจำนวนที่กำหนด
หน่วยวัด ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e) 1 Credit = 1 tCO2e
จุดประสงค์ ใช้ประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ชดเชย หรือซื้อ-ขายการปล่อยคาร์บอน
ความเกี่ยวข้องกับธุรกิจ เป็นตัวชี้วัดผลกระทบของกิจกรรม เป็นกลไกตลาดหรือแรงจูงใจในการลดคาร์บอน

แล้วโรงงานพลาสติกควรให้ความสำคัญกับอะไร?
สำหรับโรงงานผลิตพลาสติก เช่น ขวด PET หรือขวด HDPE ควรให้ความสำคัญกับทั้ง Carbon Footprint และ Carbon Credit โดยเฉพาะในยุคที่ลูกค้าและคู่ค้าต่างมองหา “ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” ดังนี้:
สิ่งที่ควรทำ:
  • ประเมิน Carbon Footprint ของผลิตภัณฑ์ เพื่อตรวจสอบว่ากระบวนการผลิตของคุณปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่าไร
  • ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น เช่น การใช้เครื่องจักรประหยัดพลังงาน หรือเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียน
  • พิจารณาร่วมโครงการปลูกป่า หรือโครงการลดคาร์บอน เพื่อรับ Carbon Credit
  • สื่อสารกับลูกค้า ว่าผลิตภัณฑ์ของคุณมีการลดคาร์บอนหรือใช้คาร์บอนอย่างมีประสิทธิภาพ

บทสรุป
การเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Carbon Footprint และ Carbon Credit ไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งแวดล้อม แต่ยังเกี่ยวข้องกับ การพัฒนาแบรนด์ ความสามารถในการแข่งขัน และความยั่งยืนทางธุรกิจ ในระยะยาว
หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติก การเริ่มต้นวัดและลด Carbon Footprint อาจเป็นก้าวแรกที่สำคัญ และต่อยอดไปสู่การใช้ Carbon Credit อย่างชาญฉลาด เพื่อสร้างความแตกต่างในตลาดที่ลูกค้าใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นทุกวัน

 
หากคุณกำลังมองหาขวดพลาสติกมีการรับรองมาตรฐานสำหรับบรรจุอาหารสำหรับธุรกิจของคุณ แต่ถ้าหากยังไม่แน่ใจในการเลือกบรรจุภัณฑ์ ลองเข้ามาปรึกษาเราได้ที่ บริษัท ชิโนพลาสแพ็ก จำกัด เราคือโรงงานผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกในแบบต่างๆ หลากหลายวัสดุ ให้เลือกใช้ และเรายินดีให้คำปรึกษาในการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์เพื่อให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ รวมถึงมีบริการออกแบบ หรือขึ้นแบบแม่พิมพ์ใหม่ พร้อมทั้งทำฉลากและติดฉลากให้ลูกค้าได้เบ็ตเสร็จ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบครัน 

นอกจากนี้ บริษัท ชิโนพลาสแพ็ก จำกัด เรายังรับทำบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกหลากหลายประเภท ได้อีกด้วย สามารถเข้าไปดู
บริการของเรา ได้ที่นี่

Share this post


widget