ขวดพลาสติกทนอุณหภูมิได้กี่องศา

ขวดพลาสติกมีหลายวัสดุ แต่ละวัสดุสามารถทนความร้อนและเย็นได้แตกต่างกัน ในการเลือกใช้พลาสติกควรคำนึงถึงอุณหภูมิที่ใช้ในการบรรจุและความตั้งใจในการใช้งาน ควรพิจารณาถึงคุณสมบัติของแต่ละชนิดพลาสติก เพื่อเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับการใช้งาน
    
    ดังนั้นขออธิบายแต่ละวัสดุดังนี้

1. Polyethylene (PE) มีทั้งแบบ

• Low-Density Polyethylene (LDPE) มีลักษณะนิ่ม ยืดหยุ่น ใสกว่า HDPE เหมาะกับชิ้นงานที่ต้องการให้บีบหรือกดได้
• High-Density Polyethylene (HDPE) มีลักษณะแข็ง ทนทาน ขุ่นกว่า LDPE เหมาะกับชิ้นงานที่ต้องการความแข็งต้องการให้รูปทรงคงตัว

• PE ไม่เหมาะกับสินค้าที่ต้องบรรจุร้อนมากๆ หรือผ่านกระบวนการผลิตที่ร้อนมากๆ เนื่องจากจะส่งผลให้ชิ้นงานเสียรูป หรือเปลี่ยนรูปได้
• เหมาะกับสินค้าอุปโภค กลุ่มน้ำยาเคมี กลุ่มน้ำยาทำความสะอาด กลุ่มอาหาร
• ขวด PE สามารถเก็บที่อุณหภูมิต่ำได้ เช่น แช่เย็น, แช่แข็ง

2. Polypropylene (PP) มีลักษณะแข็ง ใส ทนร้อน เหมาะกับชิ้นงานที่ต้องผ่านความร้อน

• PP มีจุดหลอมเหลวที่มากกว่า PE จึงเหมาะกับสินค้าที่บรรจุร้อน ทนการเข้าไมโครเวฟได้
• เหมาะกับสินค้าบรรจุร้อนหรือต้องผ่านความร้อนในกระบวนการผลิต เช่น เครื่องดื่ม, ซ๊อสปรุงรส, เครื่องมือทางการแพทย์
• ขวด PP สามารถทนต่อความร้อนได้ ไม่ทำให้เสียรูปทรงหรือเปลี่ยนรูป
• ขวด PP สามารถทนความเย็นได้ แช่เย็นได้ แต่ไม่ควรต่ำกว่า -20°C เพราะอาจแตกได้ง่าย

3. . Polyethylene Terephthalate (PET) มีลักษณะใส แข็ง ป้องกันแก๊สและความชื้นได้ดี เหมาะกับชิ้นงานที่ต้องการความใส

• PET มีความใส, แข็ง, ป้องกันการผ่านเข้าออกของแก๊สและความชื้นได้ดี แต่สามารถบิดเบี้ยวเมื่ออยู่ในอุณหภูมิสูง
• เหมาะกับสินค้ากลุ่มเครื่องดื่ม เช่น น้ำอัดลม. น้ำดื่ม, น้ำผลไม้
• ขวด PET ไม่เหมาะกับการบรรจุร้อน แต่ถ้าต้องการบรรจุร้อนควรเลือกเกรดเม็ดพลาสติก ที่ทนร้อนพิเศษได้ (heat-resistant grades)
• ขวด PET สามารถเก็บที่อุณหภูมิต่ำได้ เช่น แช่เย็น, แช่แข็ง