หลักการออกแบบขวดพลาสติก

• กายศาสตร์: ขวดควรออกแบบให้ถือหรือหยิบจับได้ง่าย ขนาดของคอขวด ลักษณะการจับ (เช่น การเว้าโค้ง) และรูปทรงโดยรวมควรออกแบบเพื่อความสะดวกในการใช้งาน
• การพกพา: การออกแบบควรคำนึงถึงความสะดวกในการขนส่ง ขวดควรใส่ในที่ใส่ขวดมาตรฐาน (เช่น ที่วางแก้วในรถยนต์) และควรมีน้ำหนักเบา
• วิธีการเปิดขวด: การออกแบบฝาขวด เช่น ฝาเกลียว ฝาสแนปออน หรือชนิดอื่น ๆ ควรเปิดและปิดได้ง่ายและสามารถปิดได้แน่นเพื่อป้องกันการรั่วไหล
• ความทนทาน: ขวดควรมีความทนทานต่อการแตกร้าวหรือเสียรูป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากขวดออกแบบมาเพื่อใช้งานซ้ำหรือสามารถเติมใหม่ได้

• ประเภทของพลาสติก: การเลือกวัสดุ เช่น PET, HDPE หรือ LDPE ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ เช่น ความเข้ากันได้กับของเหลวภายใน (เช่น เครื่องดื่ม สารเคมี หรือผงซักฟอก) ต้นทุน ความสามารถในการรีไซเคิล และความปลอดภัย
• ความใสและสี: ความโปร่งใสของวัสดุและการเลือกใช้สีมีผลต่อการสร้างแบรนด์ การมองเห็นของผลิตภัณฑ์ภายใน และประสบการณ์การใช้งาน
• คุณสมบัติการกั้น: สำหรับของเหลว เช่น เครื่องดื่มอัดลม วัสดุควรมีคุณสมบัติการกั้นอากาศที่ดีเพื่อป้องกันการสูญเสียความซ่า ในขณะที่ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อาจต้องการการปิดกั้นต่อ UV ความชื้น หรือออกซิเจน

• ความเข้ากันได้กับกระบวนการเป่าขึ้นรูป: ขวดส่วนใหญ่ผลิตโดยใช้กระบวนการเป่าขึ้นรูป ดังนั้นรูปทรงของออกแบบควรเหมาะสมกับกระบวนการนี้ในด้านของรูปร่าง นอกจากนี้ยังควรคำนึงถึงความหนาของผนัง และการไหลของวัสดุในระหว่างการผลิต
• ความสม่ำเสมอ: การออกแบบควรทำให้สามารถผลิตได้อย่างสม่ำเสมอในระดับที่ผลิตจำนวนมากได้ หลีกเลี่ยงรูปร่างหรือคุณสมบัติที่ทำให้เกิดความเสียหายในการผลิตหรือจุดอ่อนในโครงสร้างการผลิต
• ประสิทธิภาพด้านต้นทุน: การใช้วัสดุอย่างมีประสิทธิภาพ (ผนังบางในจุดที่เป็นไปได้) และลดขั้นตอนการผลิตช่วยลดต้นทุนการผลิต

• รูปร่างและขนาด: การออกแบบต้องสอดคล้องกับแบรนด์ ในขณะที่ควรจดจำได้ง่าย รูปทรงขวดที่โดดเด่นสามารถเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ได้
• พื้นที่สำหรับติดฉลาก: ควรพิจารณาพื้นที่เรียบให้เพียงพอสำหรับติดฉลาก ขวดควรมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการสร้างแบรนด์ ข้อมูลตามกฎหมาย และคำอธิบายผลิตภัณฑ์ และควรติดฉลากได้ง่าย
• ความโปร่งใส: สำหรับผลิตภัณฑ์บางอย่าง ผู้บริโภคอาจต้องการขวดใสเพื่อดูผลิตภัณฑ์ภายใน แต่ขณะที่บางผลิตภัณฑ์อาจใช้ขวดทึบแสงหรือสีเพื่อป้องกันหรือเสริมความสวยงาม

• การรีไซเคิลได้: การออกแบบควรให้ความสำคัญกับการใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้และมั่นใจได้ว่าขวดสามารถนำไปรีไซเคิลได้ง่ายหลังการใช้งาน เช่น การใช้ PET ซึ่งสามารถรีไซเคิลได้อย่างกว้างขวาง
• การลดน้ำหนัก: การลดน้ำหนักขวดโดยไม่กระทบต่อความแข็งแรงช่วยลดการใช้พลาสติกและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการขนส่ง
• การลดขยะ: หลีกเลี่ยงการใช้พลาสติกมากเกินไป และออกแบบให้สามารถแยกชิ้นส่วนต่างๆได้ง่าย (เช่น การแยก ฉลากและฝา) เพื่อช่วยในการรีไซเคิล
• การใช้ซ้ำ: หากขวดออกแบบมาให้ใช้ซ้ำหรือเติมซ้ำ ควรออกแบบให้สามารถทนทานต่อการใช้งานซ้ำได้โดยคุณภาพไม่ลดลง

• ความปลอดภัยจากสารพิษ: วัสดุที่ใช้ไม่ควรปล่อยสารเคมีที่เป็นอันตรายลงในผลิตภัณฑ์ภายใน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอาหารและเครื่องดื่ม การปฏิบัติตามมาตรฐานข้อบังคับ (FDA, กฎระเบียบของสหภาพยุโรป เป็นต้น) เป็นสิ่งสำคัญ
• ความปลอดภัยสำหรับเด็ก: สำหรับผลิตภัณฑ์เช่นสารเคมีในครัวเรือน ขวดอาจต้องมีฝาที่เด็กไม่สามารถเปิดได้หรือมีระบบป้องกันการปลอมแปลง

• การวางซ้อน: การออกแบบควรทำให้สามารถวางซ้อนได้ง่ายเพื่อประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บและขนส่ง
• การใช้ปริมาตรให้มีประสิทธิภาพ: การออกแบบควรลดความเทอะทะที่ไม่จำเป็น ในขณะที่มั่นใจว่าปริมาตรของผลิตภัณฑ์ภายในตรงตามความคาดหวังของผู้บริโภค

 
สรุปแล้ว การออกแบบขวดพลาสติกต้องคำนึงถึงความสมดุลระหว่างการใช้งาน ความสวยงาม ความยั่งยืน ความปลอดภัย และการผลิต โดยต้องตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและกระบวนการผลิต

source: various
 

ตอนนี้เราได้รู้จัก หลักการออกแบบขวดพลาสติกแล้ว แต่ถ้าหากยังไม่แน่ใจในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ลองเข้ามาปรึกษาเราได้ที่ บริษัท ชิโนพลาสแพ็ก จำกัด เราคือผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกในแบบต่างๆ หลากหลายวัสดุ ให้เลือกใข้ และเรายินดีให้คำปรึกษาในการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์เพื่อให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ รวมถึงมีบริการออกแบบ หรือขึ้นแบบแม่พิมพ์ใหม่ พร้อมทั้งทำฉลากและติดฉลากให้ลูกค้าได้เบ็ตเสร็จ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบครัน 

นอกจากนี้ บริษัท ชิโนพลาสแพ็ก จำกัด เรายังรับทำบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกหลากหลายประเภท ได้อีกด้วย